การแปรสภาพสมุนไพร
สมุนไพรส่วนใหญ่ นิยมใช้ของแห้ง เพราะจะได้คุณภาพของยาคงที่ สามารถเลือกเก็บได้ตามฤดูกาลที่มีตัวยามากที่สุด หลังจากเก็บได้มาแล้วต้องนำมาคัดล้าง ตัดหรือหั่นเป็นชิ้นตามความเหมาะสม แล้วทำให้แห้ง โดยการตากแดดหรืออบให้แห้ง เพื่อสะดวกในการเก็บรักษา
ราก หรือหัว หลังจากคัดขนาดเรียบร้อยแล้ว ต้องล้างดินและสิ่งสกปรกที่ติดให้สะอาด เอารากฝอยออกให้หมด ถ้าเป็นพืชเนื้อแข็ง แห้งยากต้องหั่นเป็นชิ้นๆ ตามความเหมาะสมเสียก่อนจึงนำมาผ่านการให้ความร้อนแบบต้มนึ่งจงนำมาอบให้แห้งในอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อไป
เปลือก ต้องหั่นเป็นชิ้นให้มีขนาดพอเหมาะ ตากให้แห้ง ใบหรือทั้งต้นนำไปล้างให้สะอาดจึงนำมาตากแดดให้แห้งสนิท พืชที่มีน้ำมันหอมระเหย ควรผึ่งไว้ในที่ร่มให้แห้ง ควรมัดเป็นกำเสียก่อนเพื่อป้องกันการหลุดร่วง
ดอก ใช้วิธีตากให้แห้งโดยรักษารูปดอกไว้ให้สมบูรณ์ที่สุด
ผล ส่วนใหญ่จะตากให้แห้งได้เลย ยกเว้นบางชนิดที่ต้องหั่นเป็นชิ้นเสียก่อนจึงตากให้แห้งต่อไป
เมล็ด เก็บผลมาตากให้แห้งเสียก่อนจึงเอาเมล็ดออกการทำสมุนไพรให้แห้งนี้ เป็นการช่วยเก็บรักษาและป้องกันการเกิดเชื้อรา วิธีการทำให้แห้งต้องคำนึงถึงการถนอมตัวยาในพืชไม่ให้สลายตัวหรือเสื่อมคุณภาพไป ทำได้โดยการตากแดด อบ ผึ่งแห้งในที่ร่มซึ่งต้องเลือกให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด
การเก็บรักษาพืชสมุนไพร
1.ยานั้นต้องแห้งอยู่เสมอ ยาที่ขึ้นราง่ายต้องหมั่นเอาออกผึ่งแดดอยู่เสมอ
2.สถานที่เก็บ ควรเป็นที่แห้งเย็น การถ่ายเทอากาศดี ไม่มีลมพัดมาก แดดไม่ส่อง
3.ต้องเก็บเป็นสัดส่วนไม่ปะปนกับยาที่มีพิษ หรือมีกลิ่นหอมควรแยกเก็บที่มิดชิด
4.ต้องมีวิธีป้องกันแมลงหนู หรือ หนอนเข้าทำลายที่ถูกต้องเหมาะสม